Categories
Knowledge

เลือกประกันที่ใช่ ตามช่วงอายุ

เมื่อพูดถึง “อายุ” ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยตัดสินใจเลือกซื้อประกัน เนื่องจากความพร้อมที่แตกต่างกัน การศึกษาหาข้อมูลเรื่องการเลือกประกันเพื่อบริหารความเสี่ยงและเพิ่มความคุ้มครองให้ตนเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ ในมิติอายุที่แตกต่างกัน สภาพร่างกายและจิตใจที่เปลี่ยนไปตามวัย ย่อมมีประกันที่ช่วยรองรับความเสี่ยงนี้ แต่ละวัยควรวางแผนอะไรบ้าง และมีประกันแบบใดที่แนะนำ มาดูไปพร้อมกันเลยครับ


👧🏻วัยเด็ก
เด็กวัยนี้ซุกซนมาก เพราะต้องเรียนรู้ ซึงอาจเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยได้ง่าย หรือเกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้งโดยไม่คาดคิด สามารถวางแผนให้บุตรหลานโดยวางแผนการออมเป็นทุนการศึกษาและค่ารักษาพยาบาล
📋ประกันที่แนะนำ

  • แบบสะสมทรัพย์(ออมเพื่อการศึกษา)
  • กรรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคล
  • สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ
    👩🏻วัยรุ่น
    วัยนี้จะมีอารมณ์หงุดหงิดและแปรปรวนง่าย มีความอยากรู้ อยากเห็น อยากทดลองไม่มีการ ระมัดระวังบางครั้งอาจ ก่อให้เกิอุบัติเหตุทําให้บาดเจ็บ พิการ เสียเวลาเรียน เสียทรัพย์ สินเงินทอง ค่าใช้จ่ายในการรรักษา
    📋ประกันที่แนะนำ
  • แบบสะสมทรัพย์(ออมเพื่อการศึกษา)
  • กรรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคล
  • สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพ
    👨🏻วัยทํางาน
    เป็นวัยที่ควรดําเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง วางแผนสําหรับอนาคตและครอบครัว ทั้งในด้านค่ารักษาพยาบาล ออมไว้ใช้ในวันข้างหน้า การมีกรมธรรม์ประกันชีวิตไว้ในครอบครองถือเป็นการลดความเสี่ยงด้านการเงิน
    📋ประกันที่แนะนำ
  • สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคร้ายแรง
  • สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ
  • กรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคล
  • แบบสะสมทรัพย์
    👴🏻วัยเกษียณ
    ภายหลังการทํางานหนักมาระยะหนึ่ง บางคนอาจจะเตรียมความพร้อมโดยการแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้ออม ลดการใช้จ่ายเงินทีมีความเสี่ยงสูง วิธีหนึ่งที่น่าสนใจคือการซือกรมธรรม์ประกันชีวิตแบบบํานาญ
    📋ประกันที่แนะนำ
  • กรมธรรม์อุบัติเหตุส่วนบุคคล
  • แบบบำนาญ
  • แบบชําระเบี้ยครั้งเดียว
  • สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคร้ายแรง
  • สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ

💡เพราะไม่ใช่เพียงการซื้อความคุ้มครองให้ตัวเองเท่านั้น แต่ความรู้ในเรื่องอายุและความจำเป็นต่อประกันแต่ละแบบ จะช่วยให้เราวางแผนให้คนในครอบครัวได้อีกด้วย รู้แบบนี้แล้ว ลองสำรวจและประเมินก่อนซื้อนะครับ ครั้งหน้าจะเป็นสาระน่ารู้เรื่องอะไรนั้น ฝากติดตามด้วยนะครับ
💬 สนใจหรือมีข้อสงสัยด้านประกัน Inbox มาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/SIS.Showinsure/
✨ บริการเปรียบเทียบประกันให้คุ้มค่า พร้อมซื้อทันที ! พร้อมบทความที่ช่วยในการตัดสินใจที่
https://www.showinsure.co/

Show InSure ยินดีให้บริการครับ

Categories
Knowledge

วิธีคำนวณเบี้ยประกัน ให้สัมพันธ์กับรายได้

หลังจากได้พบกับพวกเราชาว SIS มากว่า 1 เดือน เพื่อนๆ คงเริ่มมีแผนประกันในใจ หรือเข้าใจในธรรมชาติของประกันไม่มากก็น้อย นอกจากความต้องการที่ครอบคลุมตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนแล้ว เรื่องของ “เบี้ยประกัน” ก็เป็นสิ่งที่ต้องคิดคำนวณอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้การลดความเสี่ยงครั้งนี้ ไม่เป็นภาระให้เราต้องแบกไว้ในอนาคตจนเกินความจำเป็น หากเราเตรียมพร้อมวางแผนการเงินเพื่อจ่ายเบี้ยประกันไว้ให้เพียงพอ และคุ้มค่ากับสิทธิ์ที่ได้รับ ย่อมเป็นหนทางที่ดีที่สุดต่อผู้ซื้อประกันทุกคนครับ


เบี้ยประกันชีวิต คืออะไร❓
เบี้ยประกัน เปรียบเสมือนการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้ที่ทำหน้าที่เสียสละรับความเสี่ยงแทนเรา หรือในความเป็นจริง เบี้ยประกันก็คือเงินจำนวนหนึ่งที่ผู้ถือกรมธรรม์ต้องจ่ายให้แก่บริษัทประกันภัย ตามข้อตกลงที่ได้ทำสัญญาเอาไว้ใน “กรมธรรม์ประกันชีวิต” ซึ่งจำนวนเบี้ยประกันนี้ไม่ตายตัว การทำประกันชีวิตต้องคำนึงถึงวงเงินความคุ้มครองที่เพียงพอต่อความต้องการและความสามารถในการส่งเบี้ยประกันได้ทุกปีอย่างต่อเนื่อง พิจารณจากหลายอย่าง เช่น อาชีพ รายได้ ภาระค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงเพื่อกำหนดวงเงินคุ้มครองและค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับการบริหารจัดการกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ สำหรับวงเงินความคุ้มครองนั้นพิจารณาจากภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบ โดยคำนวณภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนของผู้ทำประกันชีวิตและครอบครัว ดังนี้ครับ ^^
✨ใครสนใจหรือมีข้อสงสัยด้านประกัน Inbox มาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/SIS.Showinsure/
✨ บริการเปรียบเทียบประกันให้คุ้มค่า พร้อมซื้อทันที ! พร้อมบทความที่ช่วยในการตัดสินใจที่
https://www.showinsure.co/

Categories
Knowledge

ส่องประกันออฟฟิศซินโดรม ช่วยคุ้มครองอะไรบ้าง

ในปัจจุบันนี้โรคยอดฮิตของคนทำงาน คงเป็นบรรดาโรคออฟฟิศซินโดรม ที่เป็นผลพ่วงจากการทำงานหนักและไลฟ์สไตล์แข่งกับเวลา ทำให้เกิดประกันสำหรับโรคออฟฟิศซินโดรมมากมาย ด้วยเบี้ยประกันหลักร้อยปลายๆ พันต้นๆ น่าดึงดูดให้ซื้อกรมธรรม์มากๆ ครับ แต่ว่าออฟฟิศซินโดรมในประกันนี้ หมายถึงอาการและโรคอะไรบ้างนะ มาทำความรู้จักกันเบื้องต้นก่อนดีกว่าครับ


ออฟฟิศซินโดรมมีหลายโรค หลายอาการ เช่นอะไรบ้างนะ ?
🔹ปวดศีรษะ: อันเกิดจากการใช้สายตาในการทำงานมากอาจปวดร้าวไปถึงตา และมีอาการปวดตุ๊บๆ คล้ายไมเกรนบ่อยๆ
🔹ปวดเมื่อยหรือเกร็งตามกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ: เช่น หลัง ไหล่ สะบัก ต้นคอ แขน ข้อมือ นิ้วมือ เนื่องจากการนั่งทำงานในท่าเดิมนานๆ ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งมากเกินไป จนถึงขั้นอยู่เฉยๆ ปวดตลอด
🔹มีอาการเจ็บ ตึง และชาตามอวัยวะต่างๆ: ซึ่งพัฒนามาจากอาการปวดเรื้อรัง เป็นการอักเสบของกล้ามเนื้อ มีเอ็นอักเสบทับเส้นประสาท หรือเส้นประสาทตึงตัว จนกลายเป็นอาการชาตามมือตามแขน และมีอาการเส้นยึด
🔹นิ้วล็อก: จากการจับเมาส์หรือการใช้นิ้วมือและข้อมือจับโทรศัพท์มือถือในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ จนเกิดการอักเสบของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นนิ้วมือ ทำให้เส้นเอ็นหนาตัวขึ้น ทำให้ไม่สามารถเหยียดนิ้วมือได้ตามปกติ
🔹นอนไม่หลับ: หรือนอนหลับไม่สนิทอันเกิดจากความเครียด รวมถึงการมีอาการปวดเมื่อยและปวดหัวมารบกวนในเวลานอนเป็นระยะๆ


🤔แต่ประกันออฟฟิศซินโดรม จะครอบคลุมทุกอาการตามหลักการแพทย์ไหมนะ ?
❗️แอดมินขอบอกเลยว่าต้องอ่านข้อคุ้มครองและเงื่อนไขให้ดีเลยครับ เพราะมีหลายอาการที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มด้านบน บริษัทประกันและที่ก็จะออกความคุ้มครองไม่เหมือนกัน แอดมินขอยกตัวอย่าง เกี่ยวกับอาการและโรคที่ระบุความคุ้มครองไว้ดังนี้ครับ

  • กรดไหลย้อน
  • กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  • การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • อาการหมุน เวียนศีรษะ บ้านหมุน
  • การกดทับเส้นประสาทบรเวณข้อมือ หรือผังผืดทับเส้นประสาท
  • โรคนิ้วล็อค ปลอกหุ้มเอ็นนิ้วมืออักเสบ
  • โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท

☝🏼แค่ดูตัวอย่างก็พอจะเห็นภาพขึ้นแล้วนะครับว่า สิ่งที่เราเคยรู้อาจไม่ได้ตรงตามความคุ้มครองในประกันเสมอไป โรคหลายโรคก็เกินความคาดเดาจริงๆ แต่บอกเลยว่านี่แหละคือโรคที่สามารถเกิดจากการทำงานหนัก สไตล์หนุ่มสาวออฟฟิศและฟรีแลนซ์หน้าจอได้
สำหรับคนที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้ว โรคตามตัวอย่าง อาจได้รับความคุ้มครองอยู่แล้วในประกันของคุณ เพราะฉะนั้นศึกษาให้ดีก่อนซื้อเพิ่มนะครับ หากใครที่คิดว่าอยากหาความคุ้มครองที่ช่วยเรื่องกายภาพบำบัดนั้นก็มีข้อเรียนรู้เพิ่มเติมเช่นกันว่าสามารถเคลมได้ในกรณีใดบ้าง ครั้งหน้าแอดมินจะมาเล่าเงื่อนไขเกี่ยวกับกายภาพบำบัดให้ฟังนะครับ กดติดตามพวกเรา SIS ShowInSure ไว้ได้เลย แล้วพบกันครับ ^^

💬 สนใจหรือมีข้อสงสัยด้านประกัน Inbox มาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/SIS.Showinsure/
✨ บริการเปรียบเทียบประกันให้คุ้มค่า พร้อมซื้อทันที ! พร้อมบทความที่ช่วยในการตัดสินใจที่
https://www.showinsure.co/

Show InSure ยินดีให้บริการครับ ^^

Categories
Knowledge

ต้องทำกายภาพบำบัด เคลมประกันได้หรือไม่ ?

หากเรามีความจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในส่วนนี้ในประกันสุขภาพที่เราถืออยู่ ออฟฟิศซินโดรมไปแล้วนั้น ในวันนี้จะมาเล่าในส่วนของกายภาพบำบัดกันครับผม หากเรามีความจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในส่วนนี้ในประกันสุขภาพที่เราถืออยู่หรือต้องการซื้อเสริมเพิ่มเติม กรณีใดถึงสามารถเคลมค่ากายภาพบำบัดได้กันแน่ มีหลากหลายเงื่อนไขที่ต้องรู้เลยครับ เพราะนอกจากจะแยกตามประกันสุขภาพแบบต่างแล้ว ยังต้องมีข้อบ่งชี้อาการอีกด้วย มาครับ ไปดูพร้อมๆกันเลยในภาพเลย ^^


ข้อกฎหมายน่ารู้ เกี่ยวกับการขอรับรองเพื่อทำกายภาพบำบัด
ปัจจุบันสถานพยาบาลของทางราชการหรือเอกชนมากมายกว่า 500 แห่งนั้น มีนักกายภาพบำบัดเป็นผู้ให้บริการสามารถทำการประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดต่อผู้ป่วยได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้ตรวจประเมินหรือควบคุมอยู่ด้วย
การให้การรักษาโดยนักกายภาพบำบัดที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจึงสามารถทำได้ตามกฎหมายโดยไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งจากแพทย์และผู้เอาประกันจะได้รับการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ถูกต้องจากนักกายภาพบำบัดที่มีใบประกอบวิชาชีพตามกฎหมายเท่านั้น


☝🏼ผู้ถือประกันอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขจากตัวแทนประกันชีวิตก่อนเบื้องต้น หรือดูจากบันทึกแนบท้ายสัญญาคุ้มครองสุขภาพด้วยนะครับ เพราะเรื่องประกันต้องรู้ให้รอบเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเองครับ
ใครสนใจเรื่องกายภาพบำบัดก็อย่าลืมเช็คประกันของตัวเองดูนะครับ ^^


💬 สนใจหรือมีข้อสงสัยด้านประกัน Inbox มาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/SIS.Showinsure/
✨ บริการเปรียบเทียบประกันให้คุ้มค่า พร้อมซื้อทันที ! พร้อมบทความที่ช่วยในการตัดสินใจที่
https://www.showinsure.co/

Show InSure ยินดีให้บริการครับ ^^

Categories
Knowledge

ประกันแบบไหนเหมาะกับฟรีแลนซ์อย่างเรา?

หากพูดถึงอาชีพฟรีแลนซ์หลาย ๆ คนคงคิดถึงความอิสระในการที่จะทํางานที่ไหนก็ได้อย่างไรก็ได้ แต่เรื่องที่ฟรีแลนซ์ต้องประเชิญเป็นอุปสรรคอันดับต้นๆนั้นก็คือ ปัญหาทางด้านสุขภาพนั่นเอง แต่จะดีกว่าไหม ถ้าชาวฟรีแลนซ์ได้มีประกัน เป็นของตัวเองเพื่อไว้ใช้ดูแลตัวเองในยามที่ไม่ได้มีบริษัทให้ความคุ้มครองเรื่องนี้ โดยเฉพาะ “ประกันสุขภาพ” ที่ควรทําเป็นอย่างยิ่ง เพื่อไว้ใช้เป็นความคุ้มครองเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีพร้อมลุยงานต่อไป


ในวันนี้แอดมินมีข้อแนะนํา ในการเลือกประกันสุขภาพสําหรับฟรีแลนซ์มาฝากกัน 3 ข้อง่ายๆ ใช้ Screen ประกัน ให้มีความคุ้มครองอย่างครอบคลุม จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูในภาพได้เลยครับ…^^ ➡️


ไม่ว่าชาวฟรีแลนซ์หรือใครๆ ก็ควรทําประกันชีวิตคู่กับประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่าการรอให้อายุมากขึ้น และที่สําคัญควรตรวจสุขภาพก่อนทําประกัน ใดๆ หากเจอโรคดังกล่าวขึ้นมาก่อนทําประกัน ทางบริษัทประกันชีวิตอาจปฏิเสธไม่รับทําได้นะครับ


✅แอดมินอยากแนะนําประกันที่น่าสนใจ ราคาไม่แรงสําหรับชาวฟรีแลนซ์ กับประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุ Viriyah Healthcare by BDMS “คุ้มครอง คุ้มค่า ราคาเพื่อคนไทย”

✨เจ็บปวย วิริยะจ่าย BDMS รักษา ปวยเมื่อไหร่ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลคุณภาพในเครือ BDMS กับผลประโยชน์เข้าใจง่ายเหมาจ่ายต่อปีสูงสุด 700,000 บาท จ่ายค่าห้องสูงสุด 8,000 บาท/วัน บวกส่วนลดประวัติดีเมือไม่มีเคลม แถมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท ถือได้ว่าเปนตัวเลือกใหม่มาแรง ที่ควรศึกษาเลยครับ

ใครสนใจลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.viriyah.co.th/…/viriyah-healthcare-by-bdms/
นะครับ
💬 สนใจหรือมีข้อสงสัยด้านประกัน Inbox มาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/SIS.Showinsure/
✨ บริการเปรียบเทียบประกันให้คุ้มค่า พร้อมซื้อทันที ! พร้อมบทความที่ช่วยในการตัดสินใจที่
https://www.showinsure.co/

Show InSure ยินดีให้บริการครับ ^^

Categories
Knowledge

รู้จักประกันสุขภาพแบบต่างๆ เข้าใจง่าย !

เมื่อประกันสุขภาพ เป็นประกันแผนแรกๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับผู้ถือกรมธรรม์ แต่แพคเกจเสริมหรือกรมธรรม์พ่วงนั้นมีหลากหลายแบบ เราจะศึกษาและเลือกซื้ออย่างไรให้ตรงตามความต้องการของเราที่สุด

🔎ประกันสุขภาพคืออะไร

ประกันสุขภาพที่เราคุ้นเคยกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ซึ่งมีทั้งแบบสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องซื้อพร้อมประกันชีวิต และประกันวินาศภัยที่มีระยะเวลาของสัญญาแบบปีต่อปี การแบ่งประเภทประกันสุขภาพ สามารถจำแนกตามลักษณะดังนี้

➡️ 1. ประกันชีวิต-ประกันวินาศภัย

ประกันสุขภาพบางแบบที่เราซื้อกันมานั้นถ้าได้สังเกตจะพบว่าจะต้องมีการซื้อร่วมกับประกันชีวิตเสมอ ซึ่งจริงๆแล้วตัวประกันชีวิตคือตัวสัญญาหลักที่จำเป็นต้องซื้อเพื่อจะได้ทำประกันสุขภาพที่เป็นสัญญาเพิ่มเติมหรือสัญญาแนบท้าย ส่วนประกันสุขภาพที่เป็นแบบประกันวินาศภัยนั้นสามารถซื้อโดยตรงได้เลย ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียในการพิจารณาเลือกซื้อดังนี้

🔹ซื้อกับประกันชีวิต 

รูปแบบ : เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ต้องซื้อพร้อมประกันชีวิต มีระยะเวลาอิงกับสัญญาประกันชีวิต สามารถเลือกความคุ้มครองแต่ละแบบให้ตรงความต้องการของแต่ละคน 

📎เงื่อนไข : เมื่อเกิดโรคประจำตัวภายหลังทำสัญญาไป 2 ปีโอกาสถูกยกเลิกสัญญาน้อย 

🧾ค่าเบี้ยประกัน : ปรับตามช่วงอายุตามอัตราที่กำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มต้นสัญญาไม่เปลี่ยนแปลง 

🔹ซื้อกับประกันวินาศภัย 

รูปแบบ : เป็นสัญญาที่จัดมาเป็น package ความคุ้มครองตามความต้องการของตลาด มีระยะเวลาแบบปีต่อปี เลือกซื้อตาม package ที่กำหนดมา 

📎เงื่อนไข : บริษัทอาจยกเลิกสัญญาหากพบว่าผู้เอาประกันมีโรคประจำตัวภายหลัง แม้จะต่อประกันมาหลายปี 

🧾เบี้ยประกัน : ปรับตามช่วงอายุและอัตราการเคลม อาจเพิ่มเบี้ยถ้าเคลมบ่อย หรือลดเบี้ยถ้าไม่เคลม 

➡️ 2.แบ่งตามความคุ้มครองที่กำหนด 

 เมื่อพูดถึงประกันสุขภาพเรามักจะนึกถึงการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเป็นอันดับแรก แต่นอกจากค่ารักษาพยาบาลประกันสุขภาพยังอาจครอบคลุมถึงการคุ้มครองอื่นๆอีกเช่น 

🔹ประกันอุบัติเหตุ ที่จะคุ้มครองเฉพาะในกรณีประสบอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่รวมถึงการเจ็บป่วย 

🔹ค่าชดเชยรายวันกรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จะคุ้มครองในส่วนของรายได้ที่ขาดหายไปจากการไม่สามารถประกอบอาชีพในขณะเจ็บป่วย จ่ายให้ตามจำนวนวันที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน 

🔹คุ้มครองโรคร้ายแรง บางโรคเมื่อเป็นแล้วต้องรักษาต่อเนื่องและค่าใช้จ่ายสูง หรือสูญเสียความสามารถในการประกอบอาชีพ เช่น มะเร็ง หลอดเลือดสมอง หรือหัวใจตีบ อัมพาต มักจ่ายผลประโยชน์เป็นเงินก้อนเมื่อตรวจพบ 

🔹คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและศัลยกรรม มักแบ่งวงเงินคุ้มครองแยกเป็นหมวดต่างๆ เช่น ค่าห้อง ค่าห้องผู้ป่วยหนัก ค่าผ่าตัด ค่าตรวจวินิจฉัย ค่าบริการแบบผู้ป่วยนอก เป็นต้น 

       จากรายละเอียดนี้ การซื้อประกันสุขภาพมีหลากหลายแบบ ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อ อย่าลืมเช็คความคุ้มครองให้ครอบคลุม ศึกษาเงื่อนไขให้ชัดเจน ถ้าต้องเลือกหลายแผนแต่คุ้มค่าความเสี่ยง แอดมินก็แนะนำให้ทำไว้เพื่อลดความเสี่ยงและเพื่อความอุ่นใจนะครับ เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ศึกษาก่อน เตรียมตัวก่อน ย่อมได้เปรียบแน่นอน 

Categories
Knowledge

2 ขั้นตอนประเมินตนเองก่อนซื้อประกัน

ใครๆ ก็อยากได้ประกันและความคุ้มครองที่คุ้มค่า จ่ายไป ใช้ได้จริง ในวันนี้เราลองมาประเมินตนเองก่อนซื้อประกันกันดีกว่า รายละเอียดจำเป็นที่ควรทราบก่อนตัดสินใจเลือกแผนกรมธรรม์ ดูตามความเสี่ยงควบคุม อายุ และความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น มีประเด็นที่ควรพิจารณาก่อนซื้อประกันสุขภาพเพื่อความคุ้มค่า ดังนี้

1.ความเสี่ยงที่ต้องการควบคุม แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เพื่อประกอบการพิจารณา

🖋‘โอกาสเกิดน้อยมาก แต่ความเสียหายหนักมาก’ เช่น อุบัติเหตุรุนแรง พิการทุพลภาพ มะเร็ง เป็นต้น ในกรณีนี้บางคนคิดว่าโอกาสเกิดน้อยมาก ถ้าจะโชคร้ายจริงๆก็ไปใช้สิทธิ์บัตรทองเอาก็ได้ แต่อาจเลือกทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลที่จะมีการจ่ายชดเชยในกรณีพิการทุพลภาพเพื่อเป็นรายได้ในวันที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ หรือประกันโรคร้ายแรงที่จะได้เป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียวเมื่อตรวจพบเพื่อนำไปใช้เป็นค่ารักษา ซึ่งประกันที่ครอบคลุมความเสี่ยงกลุ่มนี้เบี้ยจะไม่แพงเมื่อเทียบกับทุนที่คุ้มครอง สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารักษากับสถานพยาบาลเอกชนในกรณีนี้ อาจจะต้องเลือกประกันสุขภาพที่วงเงินคุ้มครองสูงหน่อย

🖋’โอกาสเกิดน้อย ความเสียหายค่อนข้างมาก’ เช่น การเจ็บป่วยที่ต้องผ่าตัดหรือนอนรพ. เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ท้องเสียรุนแรง เป็นโรคที่พบได้ทั่วไปแม้ในคนอายุน้อย มีโอกาสเกิดกับทุกคน หากเข้ารักษาในสถานพยาบาลเอกชนก็จะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก การเลือกทำประกันสุขภาพแบบคุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยในด้วยวงเงินที่เหมาะสมก็จะช่วย ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลได้

🖋’โอกาสเกิดมาก ความเสียหายน้อย’ เช่น เป็นหวัด ปวดท้อง เป็นโรคที่แทบทุกคนจะต้องมีโอกาสเป็นเพียงแต่จะมากน้อยต่างกัน การทำประกันที่คุ้มครองการรักษาแบบผู้ป่วยนอกก็จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้ อย่างไรก็ตามประกันสุขภาพที่คุ้มครองแบบผู้ป่วยนอกเบี้ยจะสูงกว่าแบบที่ไม่มี

2. ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน

ถือเป็นปัจจัยในการพิจารณาที่สำคัญรองลงมา หลังจากที่ได้พิจารณาด้านความเสี่ยงที่ต้องการควบคุมแล้ว บางท่านอาจไม่สามารถจ่ายเบี้ยทั้งหมดได้ไหว อาจต้องพิจารณาลดความคุ้มครองบางอย่างลง เช่น ลดความคุ้มครองแบบผู้ป่วยนอกลงแม้ไม่ครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมดแต่ก็ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายเต็มเวลาเข้ารับบริการ แล้วพยายามดูแลสุขภาพไม่ให้ป่วยบ่อย หรือทำประกันที่วงเงินไม่สูงมากแต่หากป่วยหนักจริงๆก็เข้ารับการรักษากับสถานพยาบาลของรัฐแล้วค่อยใช้ประกันจ่ายค่ารักษาส่วนเกินเอา ก็จะช่วยลดเบี้ยประกันที่จะต้องจ่ายลงได้

Categories
Knowledge

ประกันสำคัญไฉน .. ลดความเสี่ยงได้ด้วยประกัน

ในยุคที่ความเสี่ยงมีมากมายทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การวางแผนการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึง วันนี้แอดมินขอมาเล่าสู่กันฟังว่า “ประกันสำคัญไฉน ลดความเสี่ยงได้ด้วยประกัน “ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับทุกคนที่กำลังศึกษาข้อมูลอยู่

หน้าที่ของประกันคือ การควบคุมความเสี่ยงในเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการวางแผนทางการเงิน ในส่วนของประกันสุขภาพผู้มีสัญชาติไทยทุกคนมีสิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้าทุกคนอยู่แล้ว (ที่เรียกว่าบัตรทองหรือ 30 บาท) เพราะฉะนั้นจึงถือว่าไม่มีความเสี่ยง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การใช้สิทธิ์นี้ยังคงมีข้อจำกัดบางอย่าง ทำให้คนส่วนนึงยินดีเสียค่าบริการเพื่อเข้ารับการรักษากับสถานพยาบาลของเอกชน ประกันสุขภาพจึงมีบทบาทในการควบคุมความเสี่ยงเรื่องค่าใช้จ่าย 3 มิติหลัก ได้แก่

ด้านสุขภาพ

เมื่อมีสิทธิ์การรักษานั้น ย่อมหมายถึงการเลือกใช้บริการทางด้านสุขภาพที่ตอบโจทย์ตนเองได้มากกว่า เพิ่มโอกาสในการรักษาหรือตัดสินใจพบแพทย์เฉพาะทางตามความคุ้มครองที่เรามี ยังมีอีกหลายท่าที่มีสิทธิ์พื้นฐานไม่ครอบคลุม จำเป็นต้องศึกษาและซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติม เพื่อสร้างทางเลือกในการรักษาอย่างปลอดภัย รักษาได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพในระยะยาวได้อีกด้วย

ด้านรายได้

เมื่อรายได้ที่เสียไปในยามเจ็บป่วย อาจส่งผลกระทบต่อการเงินโดยรวม ประกันสุขภาพบางโปรแกรม ยื่นข้อเสนอชดเชยรายได้รายวันให้กับผู้ถือกรมธรรม์ด้วย ลดความกังวลเรื่องสภาพคล่องทางการเงินบางส่วนไปได้เช่นกัน

ด้านความสัมพันธ์ครอบครัว

ในกรณีเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ บางกรมธรรม์มีเงินชดเชยให้ทางครอบครัวด้วย สามารถลดความตึงเครียดเรื่องการเงินในครอบครัว และช่วยเหลือการใช้ชีวิตต่อไปของคนในครอบครัวด้วย ลดความเสี่ยงด้านความสัมพันธ์ในครอบครัว ป้องกันการกู้หนี้ยืมสินนอกระบบด้วย

การทำประกันเป็นการป้องกันความเสี่ยง แม้จ่ายเบี้ยแล้วแต่ไม่ได้เคลมเลยก็ถือว่าประกันได้ทำหน้าที่ของมันไปแล้ว ไม่ควรคิดว่าจ่ายเบี้ยไปแล้วต้องใช้ให้คุ้ม ไม่ควรคิดว่าจ่ายเบี้ยไปแล้วจะใช้ไม่คุ้ม เพราะหากมีการเคลมประกันที่มากขึ้นบริษัทฯสามารถปรับเพิ่มเบี้ยประกันได้ และในการทำประกันจำเป็นต้องแถลงภาวะสุขภาพ ถ้าหากบริษัทรับทราบในภายหลัง บริษัทสามารถบอกล้างกรมธรรม์และคืนเบี้ยประกันได้

ซึ่งหากผู้ขอเอาประกันมีความตั้งใจที่จะทำประกันเพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างแท้จริง เงื่อนไขเหล่านี้ก็จะไม่มีผลเท่าไรนัก เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังศึกษาข้อมูลอยู่นะครับ เลือกที่ใช่ที่ชอบ ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ทำประกันไว้ อุ่นใจกว่าแน่นอน